บริการของเรา

บริการตรวจวัดสายตาและการมองเห็น ด้วยระบบ Comprehensive eye exam เป็นการตรวจสกรีนดูดวงตา และระบบการ มองเห็นทั้งหมด ตั้งแต่ความผิดปกติของระบบการหักเหแสง (refractive examination) ระบบกล้ามเนื้อตาและการทํางาน ร่วมกันของสองตา (extra ocular muscle / binocular vision) และสุขภาพตา ซึ่งในแต่ละเคสจะมีการตรวจที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคส ที่คํานึงถึงระบบกล้ามเนื้อตา และสุขภาพตา เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่ดีที่สุด และตอบโจทย์การใช้สายตาที่แตกต่างกันของแต่ละคนมากที่สุด พร้อมทั้งสรุปและให้คําแนะนําในการรักษา

เครื่องมือและเทคโนโลยีของเรา

Auto Refractor

เครื่องตรวจวัดสายตาอัตโนมัติใช้สำหรับเพื่อหาสาเหตุของการเกิดความผิดปกติในการมองเห็น

Phoropter

สำหรับตรวจสายตาอย่างละเอียดรวมถึงตรวจความสมดุลของตาทั้งสองข้างและการเคลื่อนไหวของตา

Retinoscopy

เป็นเครื่องมือพิเศษ ใช้สำหรับดูสุขภาพตาและเพื่อหาสาเหตุของการเกิดความผิดปกติในการมองเห็นโดยเฉพาะในสายตาเด็ก

Essilor Delta 2

เครื่องฝนเลนส์เข้ากรอบแว่น ได้ทุกชนิดมีความแม่นยำสูง ด้วยเทคโนโลยีจากฝรั่งเศษ

DNeye ®️ Scanner คืออะไร ?

เครื่อง DNeye ®️ Scanner หรืออ่านว่า ดี-เอ็น-อาย-สะ-แกน-เน้อ คือเครื่องสำหรับสแกนค่าสายตา ที่มีนวัตกรรมที่เรียกได้ว่า ดีที่สุดจาก Rodenstock ที่มีความแม่นยำสูงในการสแกนค่าสายตา เครื่องสามารถสแกนและผลิตเลนส์ตามกระจกตาของแต่ละบุคคลได้ (ความแม่นยำมากแค่ไหน เทียบกระจกตาได้กับลายนิ้วมือของแต่ละคน)

เครื่อง DNeye ®️ Scanner หรืออ่านว่า ดี-เอ็น-อาย-สะ-แกน-เน้อ

ตรวจวัดสายตา

ตรวจวัดสายตา แบบละเอียดตามหลักทัศนมาตรศาสตร์ ที่ใช้เวลาในขั้นตอนนี้ อย่างน้อย 30 นาที ด้วยเครื่อง Phoropter

ตรวจวัดสายตา แบบละเอียดตามหลักทัศนมาตรศาสตร์

เครื่อง ImpressionIST® การวัดค่า พารามิเตอร์แว่น

ImpressionIST® คือการวัดค่า พารามิเตอร์แว่น โดยใช้เทคโนโลยีกล้องระบบสเตอริโอ 3มิติ เทคโนโลยีเยอรมัน ที่สามารถจัดทำข้อมูลประวัติของลูกค้าแต่ละคนได้โดยอัตโนมัติ การทำงานของเทคโนโลยีนี้คือ ระบบจะถ่ายรูปของลูกค้าในสองมุม จากกล้องสองตัวบนตัวเครื่อง โดยเพียงสวมแว่นตาและจำลองการมองปกติไปที่เครื่อง ImpressionIST

ImpressionIST®  คือการวัดค่า พารามิเตอร์แว่น

ตรวจสุขภาพตาด้วยเครื่อง Slitp-Lamp Biomicroscop

เป็นเครื่องมือพิเศษที่ใช้ในการตรวจตา ถือเป็นกล้องจุลทรรศน์ที่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างในขณะที่ทำการตรวจ สามารถขยายดูส่วนต่างๆของตา ทำให้เห็นโครงสร้างของตา ตั้งแต่ด้านหน้าของลูกตา เปลือกตา ไปจนถึงด้านในของลูกตา เพื่อใช้ในการหาความผิดปกติหรือรอยโรคที่เกิดขึ้นที่ดวงตา

ตรวจสุขภาพตาด้วยเครื่อง Slitp-Lamp Biomicroscop

ขั้นตอนการตรวจสายตาของคลินิกสายตา ดร.ซุล การแว่น

การตรวจสายตาของที่นี่ เราใช้ รูปแบบการตรวจที่เรียกว่า comprehensive eye exam ตามหลักการตรวจของ American Optometrist Association โดยเน้นองค์ประกอบการมองเห็นที่ดีที่สุดหลักๆ 3 อย่าง คือ

  1. Refraction : คือ การตรวจหาความผิดปกติของสายตา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความผิดปกติในการมองเห็น
  2. Binocular vision : คือ การตรวจหาความผิดปกติของการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้าง
  3. Ocular health : คือ การตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นเพื่อให้การมองเห็นสมบูรณ์ที่สุด

ตรวจสายตาอย่างละเอียดรวม 6 ขั้นตอน

1. การซักประวัติ (Patient History)

หมอสายตาจะทำการถามประวัติการตัดแว่นสายตา และการใช้แว่น ประวัติการมองเห็น ประวัติการใช้สายตา รวมไปถึงประวัติสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบการมองเห็นเพื่อประเมินสาเหตุที่ส่งผลต่อการมองเห็นในเบื้องต้น และความต้องการในการใช้แว่น งานอดิเรกที่ทำประจำหรือจำนวนชั่วโมงในการใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือทำเอกสารเพราะข้อมูลทั้งหมดนี้มีความสำคัญในการตัดแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟให้มีประสิทธิภาพอย่างมาก

2. ตรวจการทำงานของตาเบื้องต้น (Preliminary Evaluation)

หมอสายตาจะทำการตรวจการทำงานของตาเบื้องต้นดังนี้..

  • ตรวจลานสายตาเบื้องต้น (Visual Fields) ทดสอบพื้นที่การมองเห็นและมุมมองของภาพ
  • ตรวจการเคลื่อนไหวของตา (Visions Test) ทดสอบความสัมพันธ์ในการเคลื่อนไหวของตาทั้ง 2 ข้างทั้ง 8 ทิศทาง
  • ตรวจตาเข/ ตาเหล่เบื้องต้น (Cover Test) ทดสอบสภาวะตาเข/ ตาเหล่
  • ตรวจตาบอดสี (Color Test) ทดสอบความสามารถในการแยกแยะสี เพื่อตรวจสอบภาวะการมองเห็นสีบกพร่อง
  • ตรวจการเพ่งระยะใกล้ (Near point of accommodation) ทดสอบความสามารถในการเพ่งเมื่อมองในระยะใกล้

3. ตรวจหาความผิดปกติของสายตา (Refraction)

หมอสายตาจะตรวจหาความผิดปกติของสายตา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความผิดปกติในการมองเห็น ด้วยเครื่อง Phoropter ที่มีความละเอียดสูง โดยมีขั้นตอนการตรวจดังนี้

  • ตรวจความสามารถในการมองเห็นของตาแต่ละข้าง ทั้งระยะไกลและใกล้ (Visual Acuity) แยกแยะความผิดปกติของการมองเห็น ว่าเกิดจากปัญหาสายตาหรือสุขภาพตาด้วย Pinhole Test
  • ตรวจหาค่าสายตาสั้น-สายตายาว-สายตาเอียงเบื้องต้นด้วย Digital phoropter by Topcon และ Digital phoropter by Essilor
  • ตรวจหาค่าสายตาสั้น-สายตายาว-สายตาเอียงอย่างละเอียด ด้วยกระบวนการ Subjective Refraction
  • ตรวจหาค่าสายตายาวตามวัยในขณะมองใกล้ด้วย BCC (Addition)
  • จำลองการใช้งานค่าสายตาในสภาวะจริงเพื่อความคมชัดและความสบายตาด้วย Magnon trial lens set
  • จำลองการใช้งเลนส์โปรเกรสซีฟในสภาวะจริงเพื่อความคมชัดและความสบายตาด้วย Progressive trial lens set by Rodenstock,

4. การตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น (Ocular health)

หมอสายตาจะทำการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น ด้วย Ophthalmoscope by ใช้เพื่อตรวจหาความผิดปกติของจอรับภาพ (retina) และ ประสาทตา(optic nerve) เพราะถ้าอวัยวะส่วนนี้มีความผิดปกติ การมองเห็นอาจไม่สมบูรณ์ตรวจด้วยเครื่อง Slit lamp มีดังนี้

  1. ผิวหนังรอบดวงตา เพื่อตรวจดูว่ามีรอยแผลหรือรอยโรคต่างๆ หรือไม่
  2. เปลือกตาและขนตา เพื่อตรวจดูโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นที่บริเวณนี้ได้ เช่น โรคกุ้งยิง โรคต่อมไขมันที่เปลือกตาอักเสบ หรือแม้กระทั่งโรคเนื้องอกที่เปลือกตา
  3. สภาพผิวของดวงตา รวมถึงการตรวจเนื้อเยื่อใต้เปลือกตาและบริเวณเยื่อบุตาขาว ซึ่งเป็นบริเวณที่อาจมีอาการบวมหรือติดเชื้อ ที่มีสาเหตุมาจากโรคที่ติดต่อจากทางเพศสัมพันธ์ โรคภูมิแพ้ หรือการติดเชื้อไวรัส
  4. ตาขาว ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดที่ห่อหุ้มอวัยวะต่างๆ ภายในลูกตา ส่วนบริเวณตาขาวชั้นตื้นๆ ที่เรียกว่า episclera จะเป็นบริเวณที่มีความสัมพันธ์กับโรคต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มคัน หรือโรคไขข้ออักเสบต่างๆ เช่น โรคเก๊าท์
  5. กระจกตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่มีผลต่อการมองเห็น การตรวจด้วยเครื่อง Slit lamp จะทำให้เห็นว่ากระจกตาใสเป็นปกติดีหรือไม่
  6. ม่านตา เป็นส่วนที่เราเห็นเป็นสีของดวงตา โรคที่เกิดขึ้นและจะส่งผลให้ม่านตามีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น โรควัณโรค โรคมะเร็งเม็ดเลือด และโรคไขข้ออักเสบต่างๆ
  7. เลนส์แก้วตา ที่อยู่ถัดจากบริเวณหลังม่านตา เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงตามอายุจะทำให้เกิดโรคต้อกระจกได้

5. สรุปผล และ ให้คำแนะนำการรักษา (Doctor consult)

ในการตัดแว่นสายตาแต่ละครั้ง จะให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางการรักษาพร้อมทั้งอธิบายปัญหาการมองเห็นโดยหมอสายตา (Doctor of Optometry) ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะจากกระทรวงสาธารณสุขโดยหมอสายตาจะเป็นผู้ลองเลนส์โปรเกรสซีฟให้คุณ ช่วยเลือกแว่นร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้เหมาะสม ช่วยวัดจุดประกอบแว่นร่วมกับช่างแว่นผู้เชี่ยวชาญ และร่วมสอนใช้แว่นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

6. วัดจุดประกอบของแว่น ( Fitting)

ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมากๆในการตัดแว่นสายตาแต่ละครั้ง ไม่แพ้การตรวจวัดสายตาให้แม่นยำเลยค่ะ
หมอสายตากับช่างแว่นผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นผู้วัดจุดประกอบด้วย

  • PD metter
  • Manual Rodenstock Parameter measurement
  • 3D video measurement with ImpressionIST®

ซึ่ง 6 ขั้นตอนที่กล่าวมานี้เราจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที และดูแลทุกขั้นตอนโดย หมอสายตา (Doctor of Optometry) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่และช่างแว่นผู้เชี่ยวชาญของเรา

Zeiss i.Terminal go
โปรแกรมวิเคราะห์หาจุดเซนเตอร์ตาโดยใช้เซนเซอร์ติดกับแว่นเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน

ตัวโปรแกรมจะระบุค่าพารามิเตอร์ที่สำคัญสำหรับการประกอบแว่นตาออกมาให้ทั้งหมด 8 ค่า คือ
* PD ค่าความห่างของจุดกึงกลางตาดำ ขวาและซ้าย มีความแม่นยำ 0.1mm.
* X คือค่าระหว่างขอบแว่นด้านใน ไปถึงกลางตาดำ มีความแม่นยำ 0.1mm.
* FH ค่าความสูงจากขอบเลนส์ด้านล่างมาถึง กลางตาดำ มีความแม่นยำ 0.1mm.
* BVD ค่าความห่างระหว่างด้านหลังเลนส์กับกระจกตาดำ แยกขวาและซ้าย มีความแม่นยำ 1.0 mm.
* Diameter คือวงเลนส์ (เส้นผ่าศูนย์กลางเลนส์) ที่จะต้องใช้สำหรับกรอบนั้นๆ (หาค่าวงเลนส์ให้เล็กที่สุดเพื่อจะทำให้เลนส์บางลง)
* Panto ค่าอาศาความเทของกรอบแว่นเมื่ออยู่บนใบหน้า มีความแม่นยำ 1.0 mm.
* Wrap ค่าความโค้งของกรอบแว่น มีความแม่นยำ 0.1mm.
* สามารถระบุขนาดของเลนส์ได้ A (ความกว้างเลนส์) B (ความสูงเลนส์) DBL(ค่าความห่างของเลนส์ขวาและซ้าย) มีความแม่นยำ 0.1mm.
* สามารถสั่งเลนส์ผ่าน Sever ไปยังบริษัท Zeiss ที่เยอรมันได้โดยตรง
.
ทำให้สามารถออกแบบและผลิตเลนส์แว่นตาอย่างเฉพาะเจาะจง โดยปรับตัวแว่นให้เข้าหากับลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมของคุณลูกค้า อีกทั้งยังสามารถส่งตรงข้อมูลการตรวจวัดทั้งหมดจากเครื่อง i.Terminal mobile ไปยังโรงงานผลิตเลนส์ Zeiss ที่ประเทศเยอรมันนี ให้เริ่มทำการผลิตเลนส์ของคุณได้ทันทีหลังจากตรวจวัดเสร็จ
Cr.The Vision Optic
Facebook
Twitter
WhatsApp